สนข.เตรียมหารือ ร.ฟ.ท. พัฒนาพื้นที่บางซื่อ ยันมูลค่าสูงกว่า 3 แสนล้านบาทมากกว่ามักกะสันคอมเพล็กซ์ คาดสรุปได้ ธ.ค.นี้ เชื่อนักลงทุนสนใจ ด้าน รฟม.เล็งพัฒนาพื้นที่ย่านห้วยขวางนำเงินใช้หนี้ พร้อมเดินหน้าซื้อรถไฟฟ้าล็อตใหญ่
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "การพัฒนาระบบรถไฟฟ้าอย่างยั่งยืน" ซึ่งจัดโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า เตรียมหารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อจัดทำแผนการพัฒนาที่ดินของ ร.ฟ.ท.ย่านบางซื่อประมาณ 2,000 ไร่ ให้เป็นศูนย์ประชุม โรงแรม อาคารสำนักงาน และอื่นๆ เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพสูง เพราะจะมีโครงการรถไฟฟ้าหลายสายผ่าน และยังมีสถานีกลางบางซื่อ ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าในเมือง และรถไฟฟ้าความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ในอนาคตด้วย โดยโครงการดังกล่าวจะใหญ่กว่ามักกะสันคอมเพล็กซ์ ที่มีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท เพราะมีพื้นที่มากกว่า ซึ่งการพัฒนาจะไม่ซ้ำซ้อนกัน เพราะมักกะสันคอมเพล็กซ์อยู่ในเมือง ส่วนโครงการนี้จะอยู่รอบนอก คาดว่า จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแน่นอน โดยแผนงานอย่างเป็นทางการน่าจะออกมาในได้ในเดือนธันวาคมนี้
"โครงการนี้จะเป็นการพัฒนาพื้นที่โดยรอบทั้งหมด รวมถึงพื้นที่ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ฝั่งที่เป็นร้านอาหารและผับในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างเป็นอาคารสูงเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของกระทรวงคมนาคม รวมถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบางแห่ง เบื้องต้นมีแนวคิดจะก่อสร้างรถไฟฟ้ามวลเบา (โมโนเรล) เพื่อเชื่อมต่อแต่ละพื้นที่ เริ่มที่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สวนจตุจักร กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตลาด อ.ต.ก. และเข้าไปยังสถานีกลางบางซื่อด้วย" นายจุฬากล่าว
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า หากสามารถพัฒนาที่ดินของ รฟม.ย่านห้วยขวางประมาณ 1,000 ไร่ เป็นศูนย์ประชุม ศูนย์วัฒนธรรม โรงแรม อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัยมูลค่าหลายแสนล้านบาทได้ เพื่อช่วยลดภาระหนี้ของ รฟม. ส่วนการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพื่อให้บริการรถไฟฟ้า 10 เส้นทาง จำนวน 800 ตู้นั้น จะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนคาดจะทราบผลในต้นปี 2556 หลังจากนั้น จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
"การซื้อขบวนรถไฟฟ้าล็อตใหญ่จะส่งผลดีต่อการดำเนินโครงการ เพราะจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างได้ เพราะไม่ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับรถไฟฟ้า และยังช่วยให้ไทยสามารถตั้งโรงงานประกอบรถไฟฟ้าขึ้นในประเทศได้ ซึ่งบริษัท ซีเมนส์ ระบุว่า หากมีการจัดซื้อประมาณ 100 ตู้ ก็สามารถตั้งโรงงานประกอบในไทยได้ และหากไทยไม่ทำในอนาคตก็จะเป็นลูกค้าหลักที่ต้องซื้อจากมาเลเซีย เพราะเมื่อเปิดเสรีอาเซียนการค้าขายระหว่างกันก็จะไม่มีเรื่องภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องอีก" นายยงสิทธิ์กล่าว
ที่มา:มติชนรายวัน
TAG :สนข.,ร.ฟ.ท.,พื้นที่บางซื่อ,3 แสนล้านบาท,มักกะสันคอมเพล็กซ์,มติชน,อีบิลด |